กลับมาพบกับการรวมมือถือจากทีม Rayong OA อีกครั้ง ในรอบนี้มาพบกับมือถือในกลุ่มราคา 9,000 – 15,000 บาท มันจะมีรุ่นไหนที่น่าซื้อในเดือนนี้บ้าง เรามาดูกันเลยครับ
OnePlus Nord CE 2 5G
เริ่มที่รุ่นแรกที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ในประเทศไทยกับราคา 14,990 บาท เรียกได้ว่าแรงพอสมควร แต่ว่าสเปกที่ได้นั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดาอย่างที่คิดกับความเป็นตัวเองในส่วนของระบบปฏิบัติการ และดีไซน์ดูแพงกว่าเดิม ฉะนั้นใครอยากได้รีบสอยเลยครับ
รายละเอียดของ OnePlus Nord CE 2 5G
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz HDR10+
- ขนาดตัวเครื่อง: 160.6 x 73.2 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก: 173 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: MediaTek Dimensity 900 5G | Mali-G68 MC4
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 6/8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 128GB
- หน่วยความจำภายนอก –
- การเชื่อมต่อ: 5G (Dual Mode), WiFi 802.11 AX (WiFi 6), Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล / Video 1080p 30/60FPS
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา F 2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
- แบตเตอรี่ความจุ: 4500mAh
- รองรับ Warp Charge 65W (แบบสาย)
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Oxygen OS 11
- สี: Gray Mirror, Bahama Blue
POCO X4 Pro 5G
POCO X4 Pro 5G จัดว่าเป็นมือถือระดับกลางอีกรุ่นที่น่าสนใจ พร้อมกับ กล้อง 108 ล้านพิกเซล ที่มีเซนเซอร์ที่มีระบบโฟกัสที่ดีและ OK กว่าเดิม นอกจากนี้ ขุมพลังที่ออกมาถือว่าตอบโจทย์การทำงานได้อย่างดีเรียกได้ว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่คุ้มค่ากับการใช้งานในงบไม่แรงจนเกินไปเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้น
รายละเอียดของ POCO X4 Pro
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว Refresh Rate 120 Hz
- ขนาดตัวเครื่อง164.2 x 76.1 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก205 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G
- กราฟิก : Adreno 619
- หน่วยความจำRAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ256GB
- หน่วยความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.1, 5G / 4G
- ลำโพง เป็นแบบ Stereo ทั้งบนและล่าง
- การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง + MicroSD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด108 ล้านพิกเซล + PDAF, EIS
- เลนส์ มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Macroความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- LED Flash
- ถ่ายวิดีโอ FHD 30/60 FPS
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ: IP53
- ระบบปลดล็อคสแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ด้านข้าง
- ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟFast Charge 67W (ติดมาให้ในกล่อง)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการAndroid 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
- สี Laser Black, Laser Blue, Poco Yellow
เป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Lazada และ Shopee
Samsung Galaxy A53 5G
Samsung Galaxy A53 5G ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่จะเป็นการปรับโฉม Mirror Change เปลี่ยนแปลงในเรื่องการออกแบบที่เรียกได้ว่าลงตัวเช่นได้ และมีขอบเครื่องที่บางลงและน้ำหนักยังคงเท่าเดิม แต่ได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นในราคา 14,490 บาท อาจจะแพงขึ้น แต่ก็ลงตัว
รายละเอียดของ Samsung Galaxy A53 5G
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 159.6 x 74.8 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก: 189 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP67
- หน้าจอ: Super AMOLED Plus ขนาด 6.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ 2400×1080 พิกเซล ความสว่าง 800 nits Refresh Rate 120Hz
- ชิปเซ็ต (Exynos 1280) Octa Core 2.4 – 2.0GHz) + GPU ยังไม่ระบุ
- การเชื่อมต่อ : 5G/4G LTE (Nano SIM 2 Slot) WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (One UI 4.1)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 64 ล้านพิกเซล F/1.9 เป็นเลนส์หนัก
- 12 ล้านพิกเซลUltra Wide มุมมองกว้างสุด123 องศา
- 5 ล้านพิกเซลเป็นDepth Sensor
- 5 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์Marco
- LED Flash
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Fast Charge 25W
- แรม (RAM) : 8 GB (RAM Plus ทำได้สูงสุด 6 GB)
- ความจำภายใน : 128/256GB
- ความจำภายนอก : MicroSD (รองรับ 1TB)
- ช่องเสียบ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี: Awesome Blue, Awesome Peach, Awesome Black
เป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Lazada และ Shopee
realme 9 Pro+ รีวิว
realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่ยังมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่กับสเปกของกล้องที่เปลี่ยนไปทำให้กล้องมีความละเอียดที่ดีและเซนเซอร์ IMX766 ใหม่รองรับ OIS ในราคาเพียง 12,999 บาท เรียกได้ว่าร้องว้าวเลยทีเดียว
รายละเอียดเครื่อง realme 9 Pro+
- หน้าจอ OLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง 160.2 x 73.3 x 8 มม.
- น้ำหนัก 182 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G
- กราฟิก : Mali-G68 MC4
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB (DRAM ทำได้สูงสุด 4GB)
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, 5G / 4G
- ลำโพง เป็นแบบ Stereo ทั้งบนและล่าง
- การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + PDAF (Sony IMX766)
- เลนส์ มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- LED Flash
- ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps, FHD 30/60/120/480 fps, 720p 960 fps
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ ไม่ได้ระบุ
- ระบบปลดล็อค สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟ Super Dart Charge 65W (ติดมาให้ในกล่อง)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
- สี Aurora Green, Sunrise Blue
เป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Lazada และ Shopee
OPPO Reno 7Z 5G รีวิว
OPPO เองก็มีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดในราคานี้อย่าง Reno 7Z 5G แม้ว่าสเปกของเครื่องที่คุ้มค่า และเน้นเรื่องของการ Portrait ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดีไม่เบาเช่นเดียวกัน และ สเปกเครื่องทันสมัย
รายละเอียดของ OPPO Reno 7Z 5G
- หน้าจอ OLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+ ขนาด 6.43 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง 159.9 x 73.2 x 7.5มม.
- น้ำหนัก 173 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695
- กราฟิก : Adreno 619
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC หรือ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 ,UWB, 5G / 4G
- ลำโพงเฉพาะด้านล่าง
- การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง + MicroSD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + PDAF
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ : ไม่ระบุ คาดว่าจะกันในแบบกันน้ำกระเด็น
- ระบบปลดล็อก สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟ SuperVOOC 33W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Color OS 12
- สี Rainbow Spectrum / Cosmic Black
เป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Shopee
Huawei Nova 9 SE
Huawei ได้เปิดตัวมาพร้อมกับราคา 9,499 บาท ซึ่งมาพร้อมกับ Android 11 พร้อมกับ EMUI 12 มาพร้อมกับสเปกของเครื่องไม่ได้ด้อยกว่าใครแถมได้กล้อง 108 ล้านพิกเซลในงบนี้ ถือว่าทำได้ดีอยู่ครับ
รายละเอียดสเปกของ Huawei Nova 9 SE
- หน้าจอ IPS LCD พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้วความละเอียดระดับ FHD+ (2388×1080 พิกเซล) พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 164.6 x 75.6 x 7.9มม.
- น้ำหนัก 191 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 4G
- กราฟิก : Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB
- หน่วยความจำภายนอก ไม่รองรับ
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, 4G
- ลำโพง Stereo ทั้งบนและล่าง
- กล้องหน้า 1 ตัวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p
- กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย
- ตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล PDAF, Laser Focus รูรับแสง F/1.9
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Ultrawide ให้มุมมองกว้าง 112 องศา
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Macro
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ( Depth Sensor)
- LED Flash
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 30/60 FPS, HD, Slowmotion, Timelapse, Dual Recording บันทึกภาพได้ 2 กล้องหน้าหลัง
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ ไม่ได้ระบุ
- ระบบปลดล็อค : สแกนใบหน้า Face Recognition + สแกนนิ้วมือด้านข้าง
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
- รองรับ Super Charge 66W (แบบสาย)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 มาพร้อมกับ EMUI 12 ไม่มี Google Mobile Service
- สี : ฟ้า (Crystal Blue) ดำ (Midnight Black)
เป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Lazada และ Shopee
สำหรับครั้งหน้าทีม Rayong oa จะรวม Gadget อะไรมาฝากกันอีกต้องรอติดตามกันต่อไปในครั้งหน้าครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sanook.com